คลาวด์ประเภทใด เหมาะสำหรับการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขในอนาคต

643
0
Share:

อุตสาหกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุขมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงระบบคลาวด์มาใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป อันเนื่องมาจากลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรมที่ต้องมีกฎระเบียบเข้มงวดรัดกุม ทั้งนี้ รายงานล่าสุดของนูทานิคซ์ คาดการณ์ว่าการใช้คลาวด์ในอุตสาหกรรมนี้จะเพิ่มขึ้นจาก 27 เปอร์เซ็นต์ เป็น 51 เปอร์เซ็นในอีกสามปีข้างหน้า การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการใช้พับลิคคลาวด์ ไพรเวทคลาวด์ และไฮบริดมัลติคลาวด์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันที่ให้การวินิจฉัย รักษา หรือดูแลผู้ป่วยโดยตรง (clinical applications) และแอปพลิเคชันที่ใช้สนับสนุนการดูแลผู้ป่วย (non-clinical applications) ได้ล้ำหน้ากว่าการบริหารจัดการข้อมูลแบบเดิมๆ

 

 

การให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขผ่านระบบดิจิทัลเพิ่มขึ้นตลอดช่วงเวลาที่โควิด-19 ระบาด ผู้ให้บริการด้านนี้จำเป็นต้องติดตามอัตราการติดเชื้อของผู้ป่วย ต้องบริหารจัดการการฉีดวัคซีน และติดตามปริมาณงานด้านการรักษาพยาบาลที่มากเกินไปจำนวนมาก ทำให้มีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งต้องใช้วิธีการรวบรวม และการวิเคราะห์ข้อมูลที่สลับซับซ้อนมากขึ้น และส่วนมากวิธีการเหล่านี้อยู่บนระบบคลาวด์

ผู้ให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ยังต้องการ non-clinical applications ที่ทำงานบนคลาวด์ เช่น การวางแผนทรัพยากรและการจัดการซัพพลายเชน เมื่อมีความต้องการแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ทำงานบนคลาวด์มากขึ้น และได้เห็นประโยชน์ของคลาวด์ชัดเจนขึ้น แล้วองค์กรด้านนี้ควรลงทุนกับคลาวด์ประเภทใด

ประโยชน์ของคลาวด์ต่อการให้การรักษาพยาบาล

แม้ว่าไฮบริดมัลติคลาวด์เป็นสถาปัตยกรรมด้านไอทีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก แต่ผลสำรวจ Nutanix Enterprise Cloud Index ประจำปี 2565 พบว่า 30 เปอร์เซ็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่อยู่ในอุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุขยกให้ไพรเวทคลาวด์ เป็นรูปแบบไอทีที่เลือกใช้ ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ (70 เปอร์เซ็นต์) อ้างถึงความต้องการด้านความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในการนำคลาวด์ประเภทอื่นมาใช้ ทำให้ส่วนมากจำกัดการใช้อยู่ที่โซลูชันด้านไพรเวทคลาวด์

พับลิคคลาวด์มีประโยชน์มากมายที่ไม่ควรมองข้าม เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์เชิงคาดการณ์และเชิงโต้ตอบ ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของผู้ให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการสร้างและเก็บข้อมูลมากขึ้น นอกจากนี้ อุปกรณ์ด้านการรักษาพยาบาลและอุปกรณ์ของผู้ป่วยก็สร้างข้อมูลทางการแพทย์จำนวนมากและหลายภาษา ข้อมูลเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ตามอินสแตนซ์การเก็บข้อมูลด้านสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ทำให้ยากที่จะได้ข้อมูลเชิงลึกแบบองค์รวม แต่พับลิคคลาวด์ช่วยให้ผู้ให้บริการด้านนี้สามารถผสานรวมและบริหารจัดการข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก ก่อนที่จะย้ายข้อมูลที่อ่อนไหวง่ายไปไว้บนสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

การใช้โซลูชันคลาวด์ในวงการแพทย์และสาธารณสุข คือกุญแจสำคัญที่ช่วยจัดการกับความกังวลต่างๆ ให้กับผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกัน ความปลอดภัย และค่าใช้จ่าย ไปจนถึงการผสานรวมข้อมูลไว้ด้วยกัน การเก็บข้อมูลบางประเภทไว้บนไพรเวทคลาวด์ แต่บางประเภทอยู่บนพับลิคคลาวด์ เมื่อเกิดความต้องการต่างๆ ขึ้น เช่น ผู้ป่วยต่างต้องการรับรู้ว่าผู้ให้บริการของตนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตัดสินใจได้ว่าจะรักษาดูแลเขาอย่างไร และผู้ให้บริการก็ต้องการวิธีการเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วย ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ต่างๆ และข้อมูลองค์กรของตนได้ง่ายขึ้น ความต้องการเช่นนี้สามารถจัดการได้ด้วยการใช้ไฮบริดมัลติคลาวด์ ที่ช่วยให้ใช้งานได้ทั้งไพรเวทและพับลิคคลาวด์และการผสมผสานที่ลงตัวของไพรเวท และพับลิคคลาวด์ในสภาพแวดล้อมไฮบริดมัลติคลาวด์นี้เองที่ช่วยให้องค์กรตอบสนองต่อความต้องการต่างๆ ได้

ต้องคำนีงถึงความปลอดภัย

การบริหารจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวง่าย ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก องค์กรด้านการแพทย์และสาธารณสุขบางแห่งใช้งบหลายแสนดอลลาร์กับเรื่องของความปลอดภัยทั้งจุดที่มีการใช้งานภายใน และส่วนที่ติดต่อกับภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบริหารจัดการด้วยโซลูชันที่ทำงานบนคลาวด์ และความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการคาดการณ์ว่า ตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งของวงการแพทย์และสาธารณสุขจะแตะระดับ 128.19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2571 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปี (GAGR) เกือบ 20 เปอร์เซ็นจนถึงปี 2571

การทำงานผ่านสภาพแวดล้อมไฮบริดมัลติคลาวด์ ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถตอบสนองได้เร็วกว่าการทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานระบบปิดที่อยู่ในองค์กร ซึ่งเป็นจุดที่จะถูกโจมตีได้ง่าย แนวทางด้านความปลอดภัยของผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ดีหรือดีกว่าดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ไฮบริดมัลติคลาวด์ยังช่วยให้ผู้ให้บริการใช้วิธีการเปิดช่องว่างให้กับข้อมูล (information air gaps) ที่เป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลที่อ่อนไหวง่าย หรือสำรองข้อมูลในสภาพแวดล้อมที่แยกออกต่างหากไม่เชื่อมต่อกัน ซึ่งจะจำกัดผู้บุกรุกไม่ให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญและเพิ่มโอกาสในการเรียกคืนข้อมูลและระบบหลังการถูกโจมตี

สภาพแวดล้อมไฮบริดมัลติคลาวด์ช่วยให้ผู้ให้บริการได้รับประโยชน์ที่ดีที่สุดจากทั้งไพรเวทและพับลิค คลาวด์ ช่วยให้องค์กรต่างๆ คงสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่มีทั้งความปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่าย ในเวลาเดียวกัน โดยเก็บข้อมูลและเวิร์กโหลดที่ต้องการความปลอดภัยมากที่สุดไว้บนไพรเวทคลาวด์ ในขณะเดียวกันก็วางข้อมูลและแอปพลิเคชันทั่วไปไว้บนเครือข่ายพับลิคคลาวด์ต่างๆ ที่คุ้มค่าใช้จ่าย

ความยืดหยุ่น การปรับขนาดได้ และประสบการณ์ของผู้ป่วย

ความต้องการโซลูชันที่ยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้น ยังคงส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจด้านไอที ผู้ให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขต้องการโครงสร้างพื้นฐานไอที ที่ช่วยให้เคลื่อนย้ายข้อมูลไปมาระหว่างสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างราบรื่นมากขึ้น คลาวด์คอมพิวติ้งช่วยให้ธุรกิจยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งในและนอกสถานที่ทำงาน และไม่ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้บนสภาพแวดล้อมใดก็ตาม ระดับความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงาน และให้บริการด้านการดูแลสุขภาพได้เร็วขึ้น และส่งผลต่อเนื่องในการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ป่วยด้วย

ไฮบริดมัลติคลาวด์เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป แต่ความท้าทายยังคงมีอยู่อีกมาก เพราะการตัดสินใจเลือกใช้โซลูชันด้านไอทีขององค์กรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องพิจารณาถึงกฎระเบียบต่างๆ เป็นสำคัญอย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดสองปีที่ผ่านมามีอิทธิพลต่อองค์กรด้านการแพทย์ และสาธารณสุขให้รีบเร่งพิจารณานวัตกรรมต่างๆ เช่น การใช้เทเลเฮลท์ ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการพบ และให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย, ขยายการดำเนินงานอย่างรวดเร็ว, และตระหนักว่าดิจิทัลและบริการคลาวด์ต่างๆ ช่วยให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมมากขึ้น

การที่บริการดิจิทัลมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ผู้ป่วยและผู้ให้บริการต้องการวิธีการง่ายๆ ในการเข้าถึงข้อมูล ควบคุม และมองเห็นข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดูแลผู้ป่วยและเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจ การลงทุนทั้งไพรเวทและพับลิคคลาวด์บนสภาพแวดล้อมไฮบริดมัลติคลาวด์ จะช่วยให้ผู้ให้บริการ สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ โดยใช้คุณประโยชน์ด้านประสิทธิภาพของพับลิคคลาวด์ ควบคู่กับความปลอดภัย และความสามารถในการควบคุมที่ไพรเวทคลาวด์มีให้

อุตสาหกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุขไทยเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ผู้นำในการให้บริการทางการแพทย์ในภาคใต้ของไทย เป็นหนึ่งสถาบันทางการแพทย์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าได้มีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาใช้งานทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องมานานแล้ว โรงพยาบาลได้ใช้โซลูชันของนูทานิคซ์ เสริมศักยภาพให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ให้สามารถให้คำปรึกษาต่างๆ ผ่านอุปกรณ์มือถือ สามารถเข้าใช้งานข้อมูลบนอินทราเน็ต เข้าใช้แอปพลิเคชัน HIS และเวชระเบียนของผู้ป่วยได้จากทุกที่ทุกเวลา เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการ

ในภาพรวมของประเทศ กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้จัดหาแอปพลิเคชันหลากหลาย ทั้งด้านการดูแลสุขภาพด้านต่างๆ และแอปพลิเคชันที่ใช้รับมือกับการระบาดของโควิด-19 เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนให้บริการระบบการแพทย์ทางไกลผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง กระทรวงสาธารณสุขไทยได้ทำการ ยกระดับ “หมอพร้อม” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระบบฐานข้อมูลกลางเพื่อบริหารจัดการข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีผู้ใช้งานประมาณ 32 ล้านคน ให้เป็นแพลตฟอร์มด้านสุขภาพ Digital Health Platform เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการง่ายกว่าเดิม โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลากหลายรวมถึง เทเลเมดิซีน และพัฒนาระบบหลังบ้านให้รองรับการเชื่อมโยงกับหน่วยบริการสาธารณสุขทุกสังกัด มีระบบความปลอดภัยข้อมูลและการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือจากหลายฝ่ายเพื่อพัฒนาระบบให้มีการใช้ข้อมูลสุขภาพในรูปแบบดิจิทัลผ่านคลาวด์คอมพิวติ้งตามมาตรฐานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ความเคลื่อนไหวต่อเนื่องนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทั้งภาครัฐและเอกชนจะยังเดินหน้านำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งรวมถึงคลาวด์คอมพิวติ้งมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการให้บริการด้านนี้อย่างต่อเนื่อง

บทความโดย นายทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทย นูทานิคซ์

Share: