Thailand Rice Fest 2023 ปลุกตลาดข้าวด้วยสินค้าสร้างสรรค์ รวมร้านแบรนด์ไทยต่อยอดวัตถุดิบท้องถิ่น สุดคึกคัก

297
0
Share:

แม้ Thailand Rice Fest 2023 จะจบลงแล้ว แต่งานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นก้าวสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความหลากหลายของสายพันธุ์ข้าวไทยและคุณค่าทั้งในแง่โภชนาการ รสชาติ และโอกาสที่ข้าวไทยจะไปไกลได้มากกว่าที่คิด สะท้อนให้เห็นจากศักยภาพของแบรนด์คนไทยที่นำข้าวมาต่อยอดสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในงานที่ผ่านมา ปลุกกระแสนิยมวัตถุดิบท้องถิ่นให้คึกคัก

 

 

A bowl of pasta เพิ่มลูกเล่นใหม่ให้พาสต้าด้วยข้าวไทย
ร้านพาสต้าเส้นสด สไตล์ Homemade ที่นำข้าวไทยสายพันธุ์พิเศษมาทำเป็นเส้นพาสต้าให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ ข้าวกล้องสีชมพู ข้าวเหนียวงอก ข้าวเม่าอ่อน และข้าวลืมผัว ซึ่งข้าวแต่ละชนิดต่างให้กลิ่นหอม เนื้อสัมผัส และสีสวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเลือกกินคู่กับซอสสูตรต่างๆ ได้ตามความชอบ โดยทางร้านจะมีเมนูซอสฮังเลสูตรพิเศษเป็นพระเอกในงาน ด้วยรสชาติเข้มข้นของแกงฮังเล นำมาผสมผสานเข้ากับความเป็นอิตาลี ทำให้เกิดเป็นความลงตัวที่ถูกปากคนไทยอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมีเมนูที่น่าสนใจจากข้าวไทยอื่นๆ ทั้งลาซานญ่า และรีซอตโต้จากข้าวดอยที่น้อยคนจะรู้จัก

ไสใส ร้านขนมหวานจากวัตถุดิบท้องถิ่น
จุดเริ่มต้นของร้านไสใสมาจาก Hatch แบรนด์ข้าวท้องถิ่นที่อยากให้คนรู้จักข้าวมากขึ้น และอยากรักษาวิถีการปลูกข้าวแบบยั่งยืนไว้ นำมาสู่การต่อยอดเป็นเมนูขนมหวานต่างๆ อย่างน้ำแข็งไส และเบเกอรี่ ที่ชูคุณค่าของวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างมีลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นรสหวานหลากหลายจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้งโพรง ดอกไม้ป่า น้ำตาลดอกจาก น้ำตาลดอกเหนา หรือรสเค็มที่ได้มาจากเคย เป็นต้น รวมไปถึงการนำพันธุ์ข้าวท้องถิ่นมาทำเป็นวาฟเฟิล เค้ก และผงแป้งสำเร็จรูปที่ทุกคนสามารถนำไปทำเป็นแพนเค้กหรือเค้กกินเองที่บ้านได้ง่ายๆ เพื่อผลักดันให้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นที่รู้จักและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้มากขึ้นผ่านขนมที่คุ้นเคย

Na Ha Thai สกินแคร์แบรนด์ไทยด้วยพลังจากข้าว
แบรนด์สกินแคร์ไทยที่นำข้าวมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ เนื่องจากต้องการช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนแปลงนาสะอาด จังหวัดกำแพงเพชรในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ จึงนำข้าวไปวิจัยและพบว่ามีข้าว 2 ชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง คือ ข้าวทับทิมชุมแพ และข้าวมะลิสีนิลสุรินทร์ จนนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าจากน้ำมันรำข้าวเฉดสีสกัดที่มีประสิทธิภาพโดดเด่นในเรื่องของความชุ่มชื่น และลดความเสียหายของผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด

นอกจากนี้ กากข้าวที่เหลือจากกระบวนการผลิตสกินแคร์ ยังถูกนำมาใช้หมักเป็นเครื่องดื่มคอมบูชาหรือชาหมักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ภายใต้ชื่อแบรนด์ Marta’s และสุดท้ายนำของเหลือจากการหมักชามาทำเป็นสครับขัดผิวให้เป็นแบรนด์ Zero Waste อย่างแท้จริง

Rico น้ำข้าวหมัก เครื่องดื่มซูซ่าไร้แอลกอฮอล์ตอบโจทย์คนยุคใหม่
แบรนด์ Rico เกิดจากการทำโครงการหน้าแปลงใหญ่ที่สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวพันธุ์ กข43 และรับข้าวมาเพื่อพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ข้าวสารในถุงสุญญากาศ ข้าวโจ๊กเพื่อผู้สูงอายุ และล่าสุดคือเครื่องดื่มน้ำข้าวหมัก รสพีช ตอบโจทย์กลุ่มตลาดรักสุขภาพ ผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์ และมุสลิม หรือจะนำไปผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถทำได้ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและผู้ใหญ่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์จากข้าวเพิ่มขึ้น และยังถือเป็นเครื่องดื่ม GI ที่มีดัชนีน้ำตาลปานกลางถึงต่ำ ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้เนื่องจากไม่ได้มีการเติมน้ำตาลเพิ่ม

Lemon Farm Café เปลี่ยนไอศกรีมให้ดีต่อสุขภาพด้วยข้าวกล้องเขียวน้ำนมสุดหายาก
Lemon Farm เป็นธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าออร์แกนิค ทั้งผัก ผลไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง และสินค้าอื่นๆ จากชุมชน พร้อมนำวัตถุดิบที่มีมาต่อยอดเป็นร้าน Lemon Farm Café ที่รังสรรค์เมนูแสนอร่อยพร้อมทานแถมยังดีต่อสุขภาพทั้งคนปลูกและคนกิน โดยในงาน Thailand Rice Fest 2023 ที่ผ่านมา ได้มีการนำข้าวหายากเฉพาะฤดูอย่างข้าวกล้องเขียวน้ำนมมาทำเป็นเมนูพิเศษ อาทิ ปลานิลกินข้าวยำสมุนไพร, แรปสุดเฮลตี้จากข้าวโอ๊ตและข้าวกล้องเขียว, น้ำนมข้าวเขียว และไอศกรีมข้าวกล้องเขียวน้ำนมกินคู่กับขนมปังจากข้าว ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง น้ำตาลน้อยไม่ทำร้ายสุขภาพ และมีรสชาติอร่อยหอมมันเฉพาะตัวจากข้าว

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างไม่กี่แบรนด์ที่นำความสร้างสรรค์มาเชื่อมโยงเกษตรกรและผู้บริโภคไว้ด้วยกันในบริบทโลกยุคใหม่ ยังมีแบรนด์ที่มีศักยภาพอีกมากมายที่รอให้ทุกคนมารู้จัก แล้วพบกันใหม่ในปีหน้ากับ ‘Thailand Rice Fest 2024’ เรามีนัดกันที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5 วันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2024 I 10.00 – 20.00 น.

 

Share: