“SYS” เหล็กไทย หัวใจกรีน คว้ารางวัล CSR-DPIM Continuous ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ตอกย้ำผู้นำผลิตเหล็กคุณภาพ ควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคม
ดร. เภา บุญเยี่ยม ผู้จัดการ-สายงานรัฐกิจและชุมชนสัมพันธ์ บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด หรือ SYS ผู้ผลิตเหล็กเอชบีม ไวลด์แฟลงก์ มานานกว่า 30 ปี เป็นตัวแทนบริษัทเข้ารับเกียรติบัตรสถานประกอบการเครือข่ายที่มีการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง (CSR-DPIM Continuous Award 2023) ประจำปี 2566 ประเภทโรงประกอบโลหกรรม จาก กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานและการบริการที่ประทับใจ โดยมี นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการและมอบรางวัล ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้
รางวัลสถานประกอบการเครือข่ายที่มีการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เป็นรางวัลภายใต้โครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR-DPIM) และชุมชนเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จัดขึ้นโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐาน มีมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมเพิ่มมากขึ้น โดยร่วมกับสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ในการประเมินสถานประกอบการอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐาน ตามเกณฑ์มาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม ทวนสอบสถานประกอบการที่มีการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง SYS ได้รับรางวัลดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2554 และรับต่อเนื่องมาถึงปีนี้เป็นปีที่ 13 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ SYS ที่ยึดหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลและการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีความรับผิดชอบต่อสังคมในทุกมิติด้วยการสนับสนุนส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับชุมชน ตลอดจนให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งเหล็กของ SYS เป็นวัสดุที่ได้ชื่อว่าเป็น Green Building Material ตามหลัก 3R (Reduce-Reuse-Recycle) สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ และ Recycle ได้ 100% เป็นการหมุนเวียนวัตถุดิบและสินค้าตามแนวทางของ Circular Economy ได้รับการรับรองมาตรฐานทางด้านสิ่งแวดล้อมจากหลายสถาบัน ทำให้สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียวได้อย่างแท้จริง และมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมก่อสร้างไร้คาร์บอนในอนาคต