Shark Tank Thailand EP 8 ชาร์คประพล หนุนเอสเอ็มอีไทย คว้า 2 ดีล ธุรกิจกระเป๋าและไก่ทอด
เป็นการร่วมเติมเต็มโอกาสให้แก่ธุรกิจไทยครั้งใหญ่ ทั้งในผู้ประกอบการไทยที่กำลังเปิดตัวแบรนด์ใหม่ออกมาสู่ตลาด และผู้ประกอบการที่ธุรกิจกำลังประสบปัญหา กับรายการ Shark Tank Thailand ซีซั่น 3 รายการเรียลลิตี้ทางธุรกิจ โดยในการออกอากาศ EP8 มีธุรกิจที่มีความสร้างสรรค์มานำเสนอต่อชาร์คนักลงทุนในรายการ ทั้งธุรกิจกระเป๋าและเสื้อผ้าจากผ้าใยสัปปะรด ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและธุรกิจไก่ทอดเกาหลี สูตรพิเศษแป้งบางกรอบ สามารถเอาชนะใจ “ชาร์คประพล มิลินทจินดา” ประธาน คอมมูนิตีมอลล์ พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักทรัพย์และการลงทุน เดินหน้าร่วมสานฝันธุรกิจไทยให้แข็งแกร่งมากขึ้น
ธุรกิจแรก แบรนด์อาบบุญ เสื้อผ้าและกระเป๋า สไตล์รีสอร์ท (Resort ware) ที่จะทำให้ทุกคนคิดถึงช่วงฮอลิเดย์ จากผู้ก่อตั้งคือ “อาบบุญ ปะทะยศ” ดีไซเนอร์สาว ได้เปิดตัวแบรนด์ครั้งแรก โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งกระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้า ที่ได้เลือกใช้วัสดุท้องถิ่น คือ เส้นใยสัปปะรดมาร่วมผลิตสินค้า ถือเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและมีจุดเด่นด้านการดีไซน์ สำหรับผู้ก่อตั้งต้องการสร้างเสื้อผ้าสไตล์รีสอร์ทของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและขยายตลาดใหม่ ทั้งนี้แม้เป็นการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ใหม่แต่จากผลงานการดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์และมีความโดดเด่น จึงได้ชาร์คประพล มาร่วมดีลในวงเงิน 1 ล้านบาทและกับสัดส่วนหุ้น 25% ตามที่ผู้ประกอบการเสนอ
“ชาร์คประพล มิลินทจินดา” กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ที่มีงานดีไซน์ว่า การดีไซน์จะช่วยสร้างให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าสูงขึ้น และเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
ต่อมาธุรกิจ ชอนคิงส์ Chon King บุฟเฟ่ต์อาหารเกาหลี และมีเมนูไก่ทอดกรอบเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ก่อตั้งโดย “ชัชพงศ์ มงคลยศวัฒน์” เจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ อายุ 27 ปี ที่เคยประสบปัญหาเรื่องแผนธุรกิจและสภาพคล่อง แต่จากบทเรียนข้อผิดพลาดในอดีตทำให้วางแผนสร้างธุรกิจใหม่ทั้งการเร่งพัฒนาสินค้าและการขยายสาขาครั้งใหม่ จึงมาเสนอดีลในรายการ ด้วยวงเงิน 5 ล้านบาท แลกกับสัดส่วนการถือหุ้น 30% โดยได้รับโอกาสจาก ชาร์คประพล ร่วมดีลวงเงินตามที่ผู้ประกอบการเสนอ แต่ขอเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 40% ในที่สุดผู้ประกอบการก็ตกลงร่วมดีล นับเป็นช่วงเวลาครั้งสำคัญที่ได้ชาร์คเข้ามาร่วมพลิกฟื้นธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น
“ชาร์คจิง-ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองประธานกรรมการอาวุโส กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิทฯ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับแนวหน้าของประเทศ กล่าวแนะนำผู้ประกอบการ ที่ก้าวเข้าสู่ตำแหน่ง ผู้บริหารสูงสุด หรือ ซีอีโอ (CEO) ว่า หน้าที่ซีอีโอจะต้องรู้ให้ครบทุกด้าน ทั้งการตลาด ตัวเลขทางธุรกิจ และสามารถพูดคุยในธุรกิจได้อย่างมีความรู้และมีความเข้าใจ แต่ไม่ควรรู้เฉพาะด้านเช่น มีความรู้การออกแบบเท่านั้น โดยการมีความรอบรู้ที่ครบถ้วนจะช่วยเปิดโอกาสครั้งสำคัญต่อธุรกิจได้ในอนาคต
