GCAP GOLD ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำมากกว่า 80 ปี ประกาศเดินหน้าปรับตัวขยายฐานลูกค้า รองรับเทรนด์ซื้อ-ขายทองคำเติบโต

372
0
Share:

บริษัท จีแคป จำกัด (GCAP GOLD) ผู้นำด้านทองคำรายใหญ่ของไทย ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 80 ปี เป็นผู้เชี่ยวชาญและนำเข้าส่งออกทองคำแท่งเบอร์ต้นของไทย จากจุดเริ่มต้นธุรกิจค้าทองคำที่จังหวัดปราจีนบุรีเมื่อปี 2483 เข้ามาเปิดธุรกิจค้าส่งทองรูปพรรณในกรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ “ ห้างทองจิ้นไถ่เฮง ” (แม่ไฉน) ย่านวรจักร และได้ขยายธุรกิจร้านทองอีกสาขาหนึ่ง ชื่อ “ห้างทองโกลด์สยาม” ย่านศาลาเฉลิมกรุง และต่อมาในปี 2550 ได้จดทะเบียนในนาม บริษัท จีแคป จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายทองคำ ในนาม GCAP GOLD อีกทั้งยังมีโรงงานหลอมทองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ภายใต้ชื่อ บริษัท โกลด์ฟิลด์รีไฟเนอรี จำกัด ตั้งอยู่ที่นิคมอัญธานี (บางนา) ซึ่งเป็นโรงงานสกัดทองคำแห่งแรกใน Southeast Asia ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO9001 รวมถึงห้องแล๊บเพื่อตรวจสอบคุณภาพของทองคำ จึงการันตีได้ว่าทองคำจาก GCAP GOLD คือทองคำที่มีคุณภาพที่สุดของยุคนี้

 

 

คุณอัพ – ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานกรรมการบริหาร และทายาทเจ้าของธุรกิจค้าทองคำแท่ง ‘GCAP GOLD’ กล่าวว่า “แนวโน้มของตลาดค้าทองคำยังคงเป็นไปในทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก Demand ในตลาดทองคำที่มีแนวโน้มเติบโตเรื่อยมาส่งผลให้เห็นได้ชัดจากผลประกอบการของผู้ให้บริการหลักทุกรายเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งการแข่งขันที่มีมาตลอด ตั้งแต่ช่วงหลังโควิด และราคาที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เทรนด์ลงทุนทองกลับมาเป็นที่จับตามองในกลุ่มนักลงทุนเป็นอย่างมาก คาดว่าการแข่งขันหลังจากนี้จะยิ่งดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะผู้เล่นหลักในตลาดทุกคนจะมีพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้เน้นเรื่องความสะดวกสบายเป็นหลัก ตลาดก็ต้องปรับตัวให้ทัน

โดยทาง GCAP GOLD เองก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีและทางเราเองก็ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการนี้เช่นกัน โดยปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกรับบริการจากผู้ให้บริการซื้อขายทองคำ ไม่ว่ายุคสมัยไหน ยังไงก็ต้องเป็นความเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ผู้ให้บริการ ซึ่ง GCAP GOLD มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 80 ปี อีกทั้งต้องเน้นย้ำเรื่องความสะดวกสบายในการใช้งาน (User Friendly) ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าซื้อขาย หรือออมทองออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา”

ด้าน คุณเก่ง – ชัยวัฒน์ สามัคคีนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GCAP GOLD (CEO GCAP GOLD) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยประสบการณ์ยาวนานที่ทำให้เราเป็นที่รู้จักในด้านของผู้เชี่ยวชาญและผู้ค้าส่งรายใหญ่ในตลาดทองคำ มีลูกค้าเป็นสถาบันลงทุนและร้านทองทั่วประเทศแล้ว ขณะนี้เราจะเดินหน้าให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน ซึ่งเน้นย้ำเรื่องความมั่นคงและเชื่อใจได้ในความปลอดภัย และระบบการลงทุนที่สะดวกสบาย นอกจากนี้เรายังเน้นเรื่องของการให้ความเป็นกลาง แฟร์ แก่ผู้บริโภคทุกราย ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดจะผันผวนไปในทางใด ให้คุณมั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่สะดุดทุกการซื้อขายและได้รับทองคุณภาพดีในราคายุติธรรมเสมอ โดยในตอนนี้เรากำลังพัฒนาการซื้อขายทองคำออนไลน์ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน GOLD INVEST by GCAP GOLD”

“ซึ่งยุทธศาสตร์สำคัญคือเราเลือกหัวเมืองใหญ่เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าตามภูมิภาค เพื่อตอบสนองความพึงพอใจลูกค้า GCAP GOLD ให้รับ-ส่งมอบทองคำได้สะดวกสบายใกล้บ้าน ลดขั้นตอนระยะเวลาในการเดินทาง และล่าสุดเรามีเปิดศูนย์ใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต ลูกค้าสามารถส่งคำสั่งซื้อ-ขายกับทางบริษัท และแจ้งความประสงค์ในการรับสินค้าตามศูนย์กระจายตามภูมิภาค เพียงใช้บัตรประชาชนแสดงตัวตนรับทองคำแท่งได้เลย อีกทั้งลูกค้ามีความสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องเสียเวลา ด้วยระบบหักบัญชีอัตโนมัติ (ATS) ผ่านธนาคารชั้นนำที่เราเตรียมไว้ให้ อาทิ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย เป็นต้น”

GOLD INVEST by GCAP GOLD สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android ที่อำนวยความสะดวกตอบโจทย์ในการซื้อ-ขาย และออมทองคำ ไม่ว่าจะเป็น
• ซื้อ-ขายทองคำได้ทันที ในราคาเรียลไทม์ตามตลาดโลก
• มีกราฟราคาทอง ค่าเงินบาท และบทวิเคราะห์ แนะนำการลงทุนและปรับกลยุทธ์ได้ทันท่วงที
• ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ไม่ต้องจ้องราคา ด้วยฟังก์ชัน Leave Order สามารถตั้งราคาซื้อขายล่วงหน้าได้
• ดู Portfolio แสดงข้อมูลการทำธุรกรรมย้อนหลังได้ทั้งหมด
• ออมทองง่ายๆด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 500 บาท เพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ในอนาคต
• และมีหลายฟังก์ชันที่เพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตการลงทุนให้มากยิ่งขึ้นครบในที่เดียว

โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.gcap.co.th หรือ Facebook : GCAP GOLD https://www.facebook.com/Gcapgold/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-611-0500

GCAP GOLD ผู้นำด้านทองคำรายใหญ่ เพื่อนที่จริงใจทุกเรื่องทอง

Share: