เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ตอกย้ำองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืน พร้อมเดินหน้าจัดการปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก
เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญสู่การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนเพื่อแก้ปัญหาขยะพลาสติกอย่างถูกวิธี โดยร่วมสนับสนุนรถบรรทุกไฟฟ้าเพื่อใช้ในศูนย์รับบริจาคขวด PET และซองพลาสติกอ่อนให้วัดจากแดง จ.สมุทรปราการ ต้นแบบวัดสมัยใหม่ที่พัฒนาจนกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้และจัดการขยะชุมชนอย่างครบวงจร สร้างประโยชน์และรายได้ให้กับชุมชน นับเป็นก้าวย่างสำคัญในการจัดการปัญหาขยะพลาสติกอย่างครบวงจร
นายสุดิปโต โมซุมดา กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาหารอินโดจีน บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด (“เป๊ปซี่โค ประเทศไทย”) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมันฝรั่งทอดกรอบ “เลย์” เปิดเผยว่าเป๊ปซี่โค ประเทศไทยเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการปัญหาขยะพลาสติกอย่างครบวงจร โดยสนับสนุนรถบรรทุกไฟฟ้า 2 คัน มูลค่า 2,114,000 ล้านบาท ให้วัดจากแดง เทศบาลตำบลทรงคะนอง จ.สมุทรปราการ เพื่อใช้ในศูนย์รับบริจาคขวดและซองพลาสติกอ่อน โดยวัดจากแดง เป็นวัดสมัยใหม่ที่สอนชาวบ้านให้มีความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม และพัฒนาจนเป็นศูนย์การเรียนรู้และจัดการขยะชุมชนอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ เป๊ปซี่โค ประเทศไทยและวัดจากแดงได้มีความร่วมมือกันในการบริหารจัดการขยะหลังจากบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรจุภัณฑ์พลาสติกอ่อนหลายชั้น (Multilayer plastic packaging) หรือ MLP ตั้งแต่ปี 2565 โดยล่าสุด ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ต่อเนื่องระหว่างกัน เป็นเวลา 3 ปี นับตั้งแต่พฤศจิกายน 2566 – พฤศจิกายน 2569 เพื่อตอกย้ำวัตถุประสงค์ในการทำงานร่วมกับชุมชนในการเก็บขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกอ่อนหลายชั้น (Multilayer plastic packaging) หรือ MLP แล้วนำมา Upcycling แปลงขยะให้มีมูลค่า และได้ขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมไปถึงการจัดเก็บขวดน้ำดื่ม PET เพื่อนำไปรีไซเคิล ผลิตเป็นขวดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET bottle) หลังจากที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่ ขวด rPET 100% เป็นเจ้าแรกในตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมของไทยในเดือนเมษายน 2566 นอกเหนือไปจากความร่วมมือในการจัดเก็บ บรรจุภัณฑ์ MLP เพื่อเป็นสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างประโยชน์และเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน
นอกจากนี้ วัดจากแดง ยังได้ร่วมมือกับ UNDP, CIRAC, บริษัท โกลบอล อาร์แอนด์ดี จำกัด, ทีมวิจัยเคมีเทคนิคจุฬาฯ ชุมชนวัดจากแดง และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ในการแก้ปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์ประเภท MLP อย่างยั่งยืน ด้วยเครื่องจักรไพโรไลซิสแบบต่อเนื่องออกแบบโดยคนไทย เพื่อรีไซเคิลอะลูมิเนียมและพลาสติกใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
โดย “เครื่องไพโรไลซิส” ตัวต้นแบบที่ติดตั้ง ณ วัดจากแดง นั้น สามารถรีไซเคิลอะลูมิเนียมจากขยะพลาสติกผสมชั้นอะลูมิเนียม หรือที่รู้จักกันดีในรูปชื่อ “ถุงวิบวับ” เพื่อแยกชั้นอะลูมิเนียมออกจากพลาสติก (Laminated Plastic) เพื่อนำมาหลอมเป็นอะลูมิเนียมก้อนที่มีความบริสุทธิ์สูงมากกว่า 97% และสามารถนำกลับไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถรับขยะประเภทกล่องนมและถุงขนมขบเคี้ยวได้ประมาณ 100 กิโลกรัมต่อวัน และได้อะลูมิเนียมจากการรีไซเคิลประมาณ 20 กิโลกรัมต่อวัน นอกจากนี้ยังมีผลิตผลพลอยได้เป็นน้ำมันจากการหลอมละลายพลาสติกซึ่งสามารถขายต่อได้ รวมถึงได้ Fuel Gas ที่สามารถนำมาใช้หมุนเครื่องจักรแทนก๊าซ LPG ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเป๊ปซี่โค ประเทศไทย ได้นำพนักงานกว่า 160 คนเข้าร่วมกิจกรรม One Smile at a Time: 2024 Zero Waste ร่วมทำกิจกรรมเก็บขยะที่สวน 80 พรรษา ณ คุ้งบางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ ผลิตผ้าประเคนมัดย้อม ผลิตกระถางจากขวดน้ำและกิจกรรมทำทุ่นดักขยะปากแม่น้ำ ซึ่งทำจากขวดน้ำพลาสติกปิดฝากับโฟมที่ใช้แล้ว ห่อด้วยผ้าจีวรทอจากพลาสติกและตาข่ายและถ่วงน้ำหนักด้วยขวดน้ำที่ใช้แล้วบรรจุทราย โดยทุ่นดักขยะจะช่วยแก้ปัญหาขยะตั้งแต่ต้นทางก่อนไหลลงสู่ทะเลได้ถึงร้อยละ 30
“กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Journey to Zero Waste” มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับการคัดแยกขยะ และประโยชน์ของการนำขยะไปแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มโดยมุ่งเน้นไปที่การแปรรูปบรรจุภัณฑ์ MLP ใช้แล้ว ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ รวมทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ pep+ (Pepsico Positive) ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ครบวงจรอย่างยั่งยืน และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกและประชากร โดยหนึ่งในเป้าหมายของ pep+ คือการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2583” นายสุดิปโตกล่าว
ทางด้านพระราชวัชรบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดจากแดง กล่าวว่า อุตสาหกรรมพลาสติกทั่วโลกยังคงขยายตัวตามความต้องการของตลาด เนื่องจากพลาสติกเป็นวัสดุที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่งผลให้ปัญหาขยะพลาสติกกลายเป็นปัญหาทางด้านมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อโลกเป็นอย่างยิ่ง แต่เราเชื่อว่าจากความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวระหว่างวัดจากแดง กับเป๊ปซี่โค ประเทศไทย จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการหาหนทางเพื่อลดปัญหาขยะพลาสติก ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่โลกได้อย่างแน่นอน