ถอดรหัส 3 สินค้าพื้นบ้านดาวเด่นในร้านเซเว่นฯ จากโมเดิร์นเทรดสู่เวทีโลก 

“โมเดิร์นเทรด” ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดสำคัญในการช่วยเพิ่มโอกาสสร้างความเติบโตอย่างรวดเร็วให้กับธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการ SME จึงต้องพัฒนาศักยภาพและเทคนิคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ศูนย์ 7 สนับสนุน SME ภายใต้การขับเคลื่อนของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ จึงได้จับมือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) จัดกิจกรรมดีๆ เพื่อให้ความรู้และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SME แบบเชิงลึก ภายใต้ชื่อ “DIPROM MOVE TO MODERN TRADE” โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 มีผู้ประกอบการเข้าร่วมทั้งสิ้น 22 ธุรกิจ และได้มีการปิดกิจกรรมอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา 

โดยมี 3 ผู้ประกอบการ SME อย่าง ขนมไทยบ้านทองหยอด เม็ดอมสมุนไพรยูอีคอฟ (UECOF) และก๋วยจั๊บอุบล แบรนด์ จั๊บ จั๊บ ที่เรียกได้ว่าเป็น SME หนึ่งในดาวเด่นของ เซเว่น  อีเลฟเว่น มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมเปิดตัวสินค้าที่พัฒนาจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่มาให้ความรู้ ซึ่งอนาคตสินค้าชนิดนี้จะถูกพัฒนาสู่เวทีการค้าโลก พร้อมแนะนำเคล็ดลับสร้างความสำเร็จในตลาดโมเดิร์นเทรด 

บ้านทองหยอด : ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ปรับกระบวนการผลิต ก่อเกิดนวัตกรรมใหม่ 

แม้ขนมไทย ภายใต้แบรนด์ “บ้านทองหยอด” จะเป็นที่รู้จักมากว่า 40 ปี และวางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่นมากว่า 5 ปี แต่ ภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด เจเนอเรชันที่ 3 ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเองและสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ทำให้ได้สินค้าตัวใหม่คือ “ฝอยทองกรอบ” ด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบ ฟรีซดราย (Freeze dry) 

“ฝอยทองถือเป็นขนมไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ แต่ด้วยปัญหาในเรื่องอายุการจัดเก็บสั้นเพียง 2-3 เดือน ทำให้ฝอยทองไม่สามารถส่งออกไปขายยังประเทศแถบยุโรปหรืออเมริกาได้ เราจึงนำปัญหานี้ปรึกษากับทีมผู้เชี่ยวชาญที่มาให้ความรู้ในกิจกรรมดังกล่าว โดยทางทีมก็แนะนำให้ลองปรับกระบวนการผลิต โดยนำนวัตกรรม ฟรีซดราย ที่นิยมใช้ในกลุ่มอาหารมาปรับใช้ ทำให้ได้ฝอยทองกรอบแบบฟรีซดราย ที่มีอายุการจัดเก็บมากกว่า 1 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแต่งแพ็กเกจกิ้ง เพื่อให้เหมาะแก่การส่งออก คาดว่าจะสามารถผลิตออกวางจำหน่ายในประเทศและพร้อมส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศในปี 2566”  

เม็ดอมสมุนไพรยูอีคอฟ : สร้างความแตกต่าง ผ่านแพ็กเกจจิ้ง 

บริษัท พนาพัฒน์ เฮลท์แคร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาสมุนไพร ภายใต้แบรนด์ ยูอีคอฟ (UECOF)  มีวางจำหน่ายผ่านร้านขายยาและโมเดิร์นเทรดกว่า 10,000 แห่ง และใน เซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 7 ปี ได้ตระหนักเป็นอย่างดีว่า การพัฒนาตัวเองจะช่วยให้เห็นตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น จตุรภุช บุญมาเลิศ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท พนาพัฒน์ เฮลท์แคร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทของเราไม่ใช่บริษัทใหญ่ ดังนั้นประสบการณ์ของเราจึงไม่เทียบเท่าบริษัทใหญ่ และการมีผู้เชี่ยวชาญมาเป็นที่ปรึกษาในการช่วยพัฒนาสินค้า ช่วยให้เราแข็งแรงและเติบโตได้อย่างมั่นคงในช่องทางโมเดิร์นเทรด 

“เมื่อเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้ต้องการแค่สรรพคุณที่ได้รับ แต่ต้องการภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย เราก็ต้องปรับให้ตรงตามความต้องการของตลาด เราจึงปรับเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งให้ฉายภาพตัวตนของแบรนด์ออกมาให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ที่อาจดูโบราณ ด้วยการเพิ่มรูปมะขามป้อม ให้กระจายอยู่ทั่วซอง และเอาไว้ตรงปากฉีกซอง เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกว่าได้รับประทานมะขามป้อมแบบเต็มๆ แต่ยังคงแถบสีที่บ่งบอกรสชาติไว้ เพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความสับสน เรามองว่าสินค้าของเราจะต้องโดดเด่นในระดับโลก สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างเด่นชัด และแพ็กเกจจิ้งใหม่นี้จะเผยโฉมสู่สายตาผู้บริโภคทั้งไทยและต่างชาติในเร็วๆ นี้”  

จั๊บ จั๊บ : แก้ไขข้อบกพร่อง พร้อมพัฒนาองค์ความรู้แบบรอบด้าน 

จากอาหารพื้นบ้านประจำจังหวัดอุบลราชธานี สู่สินค้าที่คว้ารางวัล 7 Innovation Awards 2017 ปัจจุบันกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมและวางจำหน่ายใน เซเว่น  อีเลฟเว่น มากว่า 4 ปี แต่ก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนา โดย มนัสชญาณ์ อู่สมบัติชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีไลท์ 88 จำกัด เล่าให้ฟังว่า แม้สินค้าจะได้รับการตอบรับที่ดี แต่เรายังคงต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์ตรงความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด โดยสิ่งที่เราพัฒนาล่าสุดคือ การนำเทคนิคและกระบวนการผลิตที่ช่วยลดการติดกันของเส้นมาใช้ เพื่อให้ใกล้เคียงเส้นสดมากที่สุด  และลดระยะเวลาในการปรุงให้สั้นลงจากเดิม 10 นาที ให้เหลือ 5 นาที เพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะสามารถพัฒนาแล้วเสร็จและพร้อมออกวางจำหน่ายในปี 2566  

“ไม่เพียงเรื่องกระบวนการผลิตที่เราต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง การบริหารจัดการสต๊อก การศึกษาตลาด ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องเรียนรู้และพัฒนาควบคู่กันไป ปัจจุบันมีหน่วยงานหรือองค์กรให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเรื่องต่างๆ เหล่านี้ผ่านกิจกรรมและโครงการดีๆ จำนวนมาก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ประกอบการที่จะช่วยให้เติบโตในโมเดิร์นเทรดได้อย่างแข็งแกร่ง”