ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) พลิกแผนเจาะตลาดบ้านหรู เปิดตัว “เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์”

ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) พลิกกลยุทธ์ลุยอสังหาฯ ปี 2565 เจาะตลาดบ้านไฮเอนด์ ล่าสุดชิมลางเปิดตัวโครงการ “เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ (ME~I Avenue Srinakarin)” บ้านหรูสไตล์ Japanese Modern ชูจุดเด่น “อินโนเวชั่น” ผสานศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” วิชาเต๋า-เหมาซานทุกหลัง เจาะเศรษฐีกลุ่มนิชมาร์เก็ตระดับไฮเอนด์

นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหารบริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือชินวะ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ ภาพโดยรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยเผชิญกับวิกฤติต่าง ๆ หลายด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกประเทศ ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยเราจะเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวตามการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น แต่วิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อ “รายได้”และการ “จ้างงาน” ที่ลดลงประกอบกับยังเผชิญกับผลกระทบที่เกี่ยวเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ลามไปถึงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซียนั้นกำลังส่งผลให้เกิดราคาสินค้าและบริการ รวมถึงต้นทุนด้านพลังงานที่ขยับเพิ่มสูงขึ้น

“ผมว่าแทบจะทุกอย่างที่เกิดขึ้นหรือที่เห็นอยู่ตอนนี้ได้สร้างความอึมครึมให้กับเศรษฐกิจ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราเองก็ต้องเดินไปข้างหน้า เพียงแต่เป็นการก้าวที่ต้องระวังและรอบคอบ” นายวิชัย กล่าวให้ความเห็น

นายวิชัยยังกล่าวด้วยว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมทั้งของประเทศไทยและเศรษฐกิจโลกจะเจอแรงกดดัน แต่สำหรับบริษัทชินวะฯ ก็ยังมีแผนลงทุนหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องตามนโยบายของบริษัทแม่ “ชินวะ กรุ๊ป” ญี่ปุ่น ที่เข้ามาลงทุนอสังหาฯในไทยตั้งแต่ปี 2560 ในรูปแบบการร่วมทุน แต่ปี 2565 นี้จะเป็นปีแรกที่บริษัทชินวะ ฯ จะลงทุนพัฒนาเองโดยไม่มีผู้ประกอบการรายอื่นมาร่วมทุนเหมือนกับโครงการที่พัฒนาในช่วงก่อนหน้า

“ปีนี้จะเป็นปีแรกที่เราลงทุนเอง 100%ในแลนด์แบงค์ที่ซื้อเก็บไว้ในมือหลายแปลงอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพที่เข้าเมืองก็สะดวก ออกนอกเมืองก็ง่าย แต่จะเป็นการทยอยนำออกมาพัฒนาตามความเหมาะสมของสภาวะตลาดและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในแต่ละโลเคชั่น” นายวิชัยกล่าว พร้อมระบุว่า โครงการที่อยู่อาศัยโครงการแรกที่พัฒนาในปี 2565 คือ โครงการเมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ (ME~I Avenue Srinakarin) บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Japanese Modern ชูจุดเด่น “อินโนเวชั่น” ผสาน “ฮวงจุ้ย” วิชาเต๋า-เหมาซานทุกหลัง จับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเศรษฐีกลุ่มนิชมาร์เก็ตระดับไฮเอนด์

โครงการเมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ ติดห้างพาราไดซ์ ปาร์ค ซึ่งเดิมมีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมขนาด 100 ยูนิต เจาะกลุ่มวัยเพิ่งเริ่มทำงาน แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยประกอบกับกลุ่มคนที่อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าว ฐานะดี มีรายได้สูง และมีทั้งกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่แต่งงานแยกครอบครัวใหม่ แต่ต้องการอาศัยใกล้ครอบครัวเดิมหรือใกล้พ่อแม่ บริษัทชินวะฯจึงได้ปรับแผนพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ จำนวน 5 หลัง แต่ละหลังตั้งอยู่บนเนื้อที่ 46.4-49.6 ตารางวา มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 531-524 ตารางเมตร มี 4-5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อเวนิว” ซึ่งทั้ง 5 หลัง สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Private Empire ได้ สร้างสรรค์พื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว แบ่งโซนทำงานและอยู่อาศัย ทั้งยังคงความเป็นส่วนตัว และเป็นสัดส่วน ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเจ้าของธุรกิจและกลุ่มครอบครัวขยาย โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 39.8 ล้านบาท

ทั้งนี้ ด้วยบริษัทชินวะฯได้ให้ความสำคัญกับงานออกแบบดีไซน์ในสไตล์  Japanese Modern ที่ผสมผสานระหว่าง “อินโนเวชั่น” เข้ากับศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” วิชาเต๋า-เหมาซานลงในบ้านทุกหลัง เพื่อตอบทุกความต้องการของการอยู่อาศัย ดังนี้ คือ

• More Luxury Sensation : นิยามใหม่แห่งการดีไซน์ที่เรียบหรูผสมผสานกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น บ่งบอกถึงรสนิยมเหนือระดับ ออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า สะท้อนความลงตัวอย่างมีเสน่ห์ของรูปทรงต่างๆในธรรมชาติ
• More Function : มีการซ่อนฟังก์ชั่นอยู่ในพื้นที่ใช้สอย ซึ่งถูกรังสรรค์อย่างใส่ใจและพิถีพิถันเพื่อเติมเต็มทุกความสุขและไลฟ์สไตล์ เน้นการใช้งานจริงของการอยู่อาศัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด
• More Success : บ้านที่ให้คุณได้ “มากกว่า” โดยเน้นหลักการจัดฮวงจุ้ยวิชาเต๋าและเหมาซานในทุกองค์ประกอบของตัวบ้าน เพื่อข่วยเสริมพลังชี่(พลังงานแห่งชีวิต)แก่ผู้อยู่อาศัยทุกคน

ด้วยเพราะโครงการเมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ เป็นโครงการที่ไม่ใหญ่ เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่ผู้บริหารของบริษัท ชินวะฯ มองเห็นโอกาสท่ามกลางวิกฤติ ซึ่งนายวิชัย มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ปิดการขายได้ตามเป้าหมาย บริษัทชินวะฯ พร้อมที่จะนำเอาที่ดินที่ซื้อเก็บไว้ออกมาพัฒนาต่อทันที