“ไทยเดสติเนชั่น” ชี้แจงข้อเท็จจริง โต้ “แอน-จักรพงษ์” ด้าน “โด่ง-องอาจ” รุกฟ้องหมิ่นประมาท

265
0
Share:

 

นางสาววไลลักษณ์ เนียนขาว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เดสติเนชั่น จำกัด โต้แย้งข้อมูลที่ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ แอน-จักรพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณะและสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หลังจากที่ทางบริษัททัวร์เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีให้สำรองจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินนางงามจักรวาลและผู้บริหาร จำนวน 784,345 บาท เมื่อติดต่อทวงถาม ก็ถูกปฏิเสธจากผู้บริหาร รวมทั้งตัวของ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ นอกจากนี้ด้าน ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาล คดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาต่อ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์

นางสาววไลลักษณ์ กล่าวว่า “ข้อมูลที่นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ให้ไว้ต่อสาธารณะและสื่อมวลชนนั้นเป็นข้อมูลที่บิดเบือนคลาดเคลื่อนและไม่เป็นความจริง โดยการเข้าร่วมธุรกิจของบริษัทไทยเดสติเนชั่น กับ JKN GLOBAL GROUP มีรายละเอียดดังนี้
• คุณองอาจ สิงห์ลำพอง ได้เรียกทางบริษัทไทยเดสติเนชั่นให้มานำเสนอบริษัทกับนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ CEO เจเคเอ็น โกบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อให้นายจักรพงษ์ ตัดสินใจ โดยแจ้งว่ามี 3 บริษัทเข้ามาเสนอ และไทยเดสติเนชั่น ก็เป็น1 ใน 3 บริษัท
• โดยมีการประชุมครั้งที่ 1 ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2566 ทางบริษัท ไทยเดสติเนชั่น ได้เข้าประชุมแนะนำบริษัทผ่านการประชุม Zoom และต่อมาในการประชุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2566 นายจักรพงษ์ ได้อนุมัติด้วยวาจาให้บริษัทไทยเดสติเนชั่น ได้ทำงานบริหารจัดการ Hello Universe Tour เพื่อพากลุ่มลูกทัวร์ไปชมการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 72 ที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ โดยมีสัดส่วนการแบ่งผลประโยชน์ เจเคเอ็น 60% และบริษัทไทยเดสติเนชั่น 40%

หลังจากนั้นทางบริษัทไทยเดสติเนชั่น ก็ได้มาทำงานร่วมกับผู้บริหารทัวร์โดยตรง คือ
• ผู้บริหารผู้รับผิดชอบธุรกิจทัวร์ท่านที่ 1 นายธนาธิป แย้มพยนต์ ในฐานะบริหารธุรกิจทัวร์โดยตรง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณองอาจ สิงห์ลำพอง แต่อย่างใด แล้วคุณธนาธิปก็ลาออก
• ผู้บริหารผู้รับผิดชอบธุรกิจทัวร์ท่านที่ 2 Mr. Ahmed Kajee ต่อมา Mr. Ahmed Kajee ก็ถูกเลิกจ้าง
• ผู้บริหารธุรกิจทัวร์ท่านที่ 3 Mr. Tim Upchruch ตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ มารับผิดชอบแทน จากนั้น Mr. Tim Upchruch ได้ลาออกจากบริษัท
• ผู้บริหารธุรกิจทัวร์ท่านที่ 4 Ms. Anna Helfrich ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายดูแลศิลปินเข้ามาแทน จากนั้น Mrs. Anna Helfrich ได้ถูกเลิกจ้าง
• ผู้บริหารธุรกิจทัวร์ท่านที่ 5 Ms. Vallerina Kong ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลศิลปิน เข้ามาดำเนินงานร่วมกับบริษัท ไทยเดสติเนชั่น จำกัด จนกระทั่งวันที่ 11-19 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 ได้พาลูกค้า “Hello Universe Tour” ทั้งหมด 30 คนไปชมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ครั้งที่ 72 ณ.ประเทศเอลซัลวาดอร์ จนแล้วเสร็จ

ส่วนข้อเท็จจริงที่บริษัทไทยเดสติเนชั่น ออกมาเรียกร้องความเสียหายนั้นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ ไทยเดสติเนชั่น สำรองออกเป็นค่าใช้จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับ กลุ่มนางงาม ประเทศ อินเดีย บาเรนห์ ออสเตรเลีย ไอซ์แลนด์ อเมริกาใต้ ผู้บริหาร Miss Universe Organization และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมทั้งหมดเป็นจำนวน 784,346 บาท ตามฉบับ ที่ออกเช็คเป็นจำนวนสองฉบับ ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2566 หนึ่งฉบับ และ วันที่ 15 กันยายน 2566 รวมเป็นสองฉบับ โดยยังไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ Hello Universe Tour ที่ยังไม่ได้เรียกเก็บจากบริษัทเจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด มหาชน ซึ่งทั้งสองฉบับ ยังไม่ได้รับการชำระ จากบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด มหาชน

วันนี้มาศาลอาญา เพื่อมายื่นฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาจากนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ทาง TV และ Social Media และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ทำให้ตัวดิฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง”

ทางด้าน ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง กล่าวว่า “ผมต้องรักษาสิทธิ์ของตัวเองและสิทธิ์ที่เสียไป จากการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงต่อสาธารณะ ซึ่งส่งผลให้ตัวผมเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการกล่าวหาตัวผมต่อบุคคลที่ 3 ในวันนี้ผมมาเพื่อยื่นฟ้องและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาล คดีการฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาจากนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ซึ่งผมมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง และทุกคนที่ใช้นามสกุล สิงห์ลำพอง รวมไปถึงหน้าที่การงานความเป็นนักวิชาชีพของตนเองในวงการสื่อสารมวลชนและการเป็นอาจารย์ที่เคารพนับถือของเหล่าลูกศิษย์

ซึ่งคำพูดหมิ่นประมาทของคุณ มันเหมือนคุณพูดแล้วฉีกกระดาษออกเป็นชิ้นเล็กๆ ทีละชิ้นๆ พูดหนึ่งคำ คุณก็ฉีกกระดาษหนึ่งชิ้น พอพูดจบคุณก็โปรยมันในอากาศ สิ่งที่คุณพูด มันก็ปลิวฟุ้งกระจายไปทั่วเมือง คนที่ถูกคุณหมิ่นประมาท ก็ต้องมาวิ่งตามเก็บ แต่เชื่อเถอะว่า เก็บยังไงก็เก็บไม่หมด แล้ววันหนึ่งถ้าตัวคุณต้องมาเก็บกระดาษที่คุณโปรยไว้เอง เชื่อว่าคุณก็ไม่มีทางเก็บมันหมด ผมก็แค่อยากให้ระมัดระวังคำพูดที่จะพูดหรือแสดงอะไรออกไปสู่สาธารณะ”

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล โดยศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องต่อไป

Share: