อาลีบาบา คลาวด์ ได้รับการจัดให้เป็น Leader ในรายงานด้านพับลิคคลาวด์แพลตฟอร์ม มีคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประเภทการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการและกลยุทธ์ในปัจจุบัน

70
0
Share:

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ได้รับการจัดให้เป็น Leader ในรายงาน The Forrester Wave™: Public Cloud Platforms Q4 2024 นับเป็นครั้งแรกที่อาลีบาบา คลาวด์ ได้รับการจัดอยู่ในระดับ Leader ในบรรดาผู้ให้บริการแพลตฟอร์มพับลิคคลาวด์รายใหญ่อื่นๆ ในรายงานนี้ ซึ่งอาลีบาบา คลาวด์ เชื่อว่าการได้รับตำแหน่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในความรู้ความสามารถที่เข้มข้นทั้งด้านกลยุทธ์และการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการคลาวด์และ AI ของบริษัท, การดำเนินกิจการในระดับโลกที่ก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ, ตลอดจนความสามารถในการให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายแก่ลูกค้าทั่วโลก

 

 

อาลีบาบา คลาวด์ ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในสี่ผู้นำจากผู้จำหน่ายเทคโนโลยีระดับโลกเก้าราย ที่ได้รับการประเมินในรายงานของ Forrester โดยมีคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประเภทการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการและกลยุทธ์ในปัจจุบัน รายงานระบุว่า อาลีบาบา คลาวด์ ได้แสดงให้เห็นความสามารถด้านนวัตกรรม AI ด้วยการสร้างสรรค์โมเดล AI ต่างๆ ด้วยตนเอง นำเสนอทางเลือกโมเดลที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน และ model-as-a-service (MaaS) ใหม่ๆ ที่หลากหลาย รายงานยังระบุว่า โครงสร้างพื้นฐานหลักและความสามารถของ model-as-a-service ช่วยให้อาลีบาบา คลาวด์ จัดสรรพื้นที่เก็บโมเดลสำคัญๆ สำหรับการใช้ AI ได้ทั่วประเทศจีน

Forrester กล่าวในรายงานว่า “อาลีบาบา ได้เพิ่มขีดความสามารถด้าน serverless นอกเหนือจาก AI โดยแพ็ครวมโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์-เนทีฟที่ทรงพลังของบริษัท เข้ากับ ข้อเสนอด้านผลิตภัณฑ์/บริการที่ทั้งนักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ด้วยข้อมูลและการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง อาลีบาบาเหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน หรือองค์กรในเอเชียแปซิฟิกทั้งหมดที่ต้องการใช้คลาวด์ที่ปรับขนาดได้ รวมถึงบางส่วนของแอฟริกา ยุโรป และลาตินอเมริกา”

รายงาน Forrester ทำการประเมินผู้ให้บริการแพลตฟอร์มพับลิคคลาวด์รายใหญ่ที่สุดเก้าราย โดยผู้ให้บริการแต่ละรายจะได้รับการประเมินจุดแข็งของข้อเสนอด้านผลิตภัณฑ์/บริการต่างๆ, กลยุทธ์ และ สถานะทางการตลาดในปัจจุบัน โดยอาลีบาบา คลาวด์ ได้รับคะแนนประเมินสูงสุด (5.0 จาก 5.0) ในเกณฑ์ 17 ข้อ เช่น ด้านฐานข้อมูล, บริการด้านการบูรณาการข้อมูลและการกำกับดูแล, บริการคอนเทนเนอร์และ Kubernetes, บริการ serverless/FaaS, การประมวลผล, IoT, บริการด้านสตอเรจ รวมถึง บริการด้านการพัฒนา AI

นายจิงเหริน โจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “สิ่งสำคัญสูงสุดของเรา คือ การขยายความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์-เนทีฟและ AI บนพับลิคคลาวด์ เพื่อให้การสนับสนุนลูกค้าของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ความทุ่มเทด้านนี้ของเราได้รับการยอมรับจาก Forrester และเพื่อตอบสนองความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น เรามุ่งมั่นเพิ่มความสามารถอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบผลิตภัณฑ์คลาวด์และแอปพลิเคชัน AI ที่เข้าถึงได้ ปรับขนาดได้ และเชื่อถือได้ให้ลูกค้าของเรา”

ณ งาน Apsara Conference 2024 ซึ่งเป็นงานประจำปีของอาลีบาบา คลาวด์ จัดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานแบบฟูลสแตก (full-stack infrastructure) ที่ปรับโฉมใหม่ให้ตอบสนองความต้องการการประมวลผล AI ประสิทธิภาพสูง ที่เพิ่มขึ้น และเปิดตัว Qwen 2.5 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ใหม่ที่มีมากกว่า 100 รายการสู่ชุมชนโอเพ่นซอร์สทั่วโลก Qwen เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่เป็นเอกสิทธิ์ของอาลีบาบา คลาวด์ และมีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางนับแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2566 โดยมีการดาวน์โหลดโมเดลต่างๆ ของ Qwen มากกว่า 40 ล้านครั้งบนแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สต่างๆ เช่น Hugging Face และ ModelScope นอกจากนี้ Qwen ยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง derivative models มากกว่า 78,000 รายการ

ในฐานะผู้สร้างแนวคิด MaaS และผู้สนับสนุนโอเพ่นซอร์ส อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้สร้าง ModelScope ซึ่งเป็นชุมชนด้าน AI model ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยมีโมเดลมากกว่า 10,000 โมเดลโฮสต์อยู่บน ModelScope และให้บริการแก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่า 8 ล้านคน

ในส่วนของการดำเนินงานในระดับโลก อาลีบาบา คลาวด์ยังคงขยายการดำเนินงานทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีดาต้าเซ็นเตอร์ 85 แห่งใน 28 ภูมิภาคทั่วโลก และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 อาลีบาบา คลาวด์ ได้ประกาศแผนเปิดตัวคลาวด์รีเจี้ยนแห่งแรกในเม็กซิโก และจะสร้างดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มเติมในตลาดสำคัญของบริษัท ซึ่งรวมถึง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเกาหลีใต้ ในอีกสามปีข้างหน้า

Share: